ข้อเสีย Holding Company มีอะไร …. ทำไมไม่ค่อยมีคนพูด
โดย
.
.
สวัสดีครับ วันนี้อยากจะมาเล่าถึง ข้อเสีย หรือข้อคิดเห็นในบางมุมเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท โฮลดิ้ง ว่ามีข้อเสียหรือไม่อย่างไร
เพราะหลังๆมานี่ มักพบว่าเจ้าของกิจการ หลายท่านที่ปรึกษาเราเข้ามา (ไม่รู้ว่าไปถามใครมาก่อน) แล้วแจ้งว่าอยากจัดตั้ง Holding company เพื่อสิทธิภาษี หรืออะไรก็ว่าไป
แต่เมื่อเราได้ พบแล้วหรือ ปรึกษากันแล้ว …. Holding company ไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดของเจ้าของกิจการเหล่านั้น
จริงอยู่ที่ Holding company ช่วยประหยัดภาษี แต่ การบริหารภาษี ไม่ได้มีแต่ Holding company นะ
.
.
วันนี้เลยชวนมาดูข้อสังเกตุ ข้อเสีย คร่าวๆของ Holding company กันครับ
-
ภาระทางกฏหมาย
เมื่อท่าน จัดตั้ง Holding company ได้แล้ว อย่าลืมว่านี่คือหนึ่งใน นิติบุคคล จึงทำให้ต้องมีการวางแผน การยื่นภาษี การส่งงบการเงิน การจัดประชุมบริษัท หรือแม้แต่เมื่อท่าน ต้องการเงินปันผลออกจาก Holding company นั้นต้องทำอย่างไร ให้เหมาะสม นี่คือภาระที่เกิดขึ้น
หลายกิจการมักคิดว่า เมื่ออยากได้เงินปันผล ก็ทำการจ่าย ออกก็จบ แต่อย่าลืมว่าสรรพากรไม่ได้มองเช่นนั้น การจ่ายปันผลมีรายละเอียดอีกมาก ที่ต้องทำตามกฏหมาย เช่น มีการประกาศ มีการจัดสำรองกำไรสะสม บลาๆ
เพื่อปกป้อง ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (Passive Minority Share-Holders )
.
.
2. วางแผนผิดๆ จาก Holding กลายเป็น บริษัททั่วไป
ใช่ครับ หลายท่านไปได้คำแนะนำ ได้ที่ปรึกษา จากใครไม่รู้ ทำให้ได้จัดตั้ง โอนสินทรัพย์เข้าไปใน Holding company ซะมากโข และสินทรัพย์เหล่านั้น ถูกปล่อยเช่าให้บริษัทลูกทั้งหลาย ได้ใช้ดำเนินการ …. คำถามคือ รายได้ค่าเช่า ที่เกิดใน Holding company ถูกยกเว้นภาษีหรือไม่?
.
.
คำตอบคือ ไม่นะครับ หลายเป็นว่าเมื่อ Holding company มีรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ค่าใช้จ่ายมีไม่มาก ผลลัพธ์คือ เสียภาษีบาน ดังนั้น การจัดแจงทรัพย์สินในหลายๆ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มักจัดตั้ง Property company แยกออกมาอย่างนึง เดี๋ยววันหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่ามีประโยชน์อย่างไร
.
.
นอกจากนั้นแล้ว การโอนถ่ายทรัพย์สิน ถ้าวันแรกวางแผนไม่ดี การที่จะมาแก้ไขในวันต่อๆไป ทุกอย่างล้วนมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป้นภาษีการโอน ค่าธรรมเนียมกรมที่ดิน การวัดมูลค่าตลาด บลาๆ เพื่อให้สรรพากรหรือหน่วยงานอื่นๆ ไม่เข้ามาหาเรา ดังนั้นต้องวางแผนดีๆครับ
.
.
3. กำหนดส่วนทุนผิด … จากตัวช่วย การเป็นตัวฉุดรั้ง
ใช่ครับ การจัดตั้ง Holding company นอกจากการบริหารภาษีแล้ว อีกอย่างที่เด่นชัดมาก (ผมว่าประโยชน์นี้มากกว่าเรื่องภาษีเสียอีก) คือการบริหารส่วนทุน ส่วนของเจ้าของในบริษัท Operation company ต่างๆ
เพราะการกำหนดสัดส่วนทุน ว่ามีทุนเท่าไหร่ สัดส่วนแต่ละท่านที่เป็นบุคคลธรรมดา ถือจะเป็นเท่าไหร่ ล้วนแต่มีผลแตกต่างกันไปเช่น
ผลทางกฏหมายในการออกเสียง (Voting Right)
ผลเมื่อบริษัทจะเติบโต หรือก้าวไปสู่การนำ Holding company to IPO
ผลเมื่อทายาทเปลี่ยนมือในการถือหุ้น
ผลต่อการเสี่ยงต่อการถูกครอบงำกิจการ
ส่วนส่วน หนี้สินต่อ ทุน
เป็นต้น
.
.
มองภาพไกลไปอีก สัดส่วนทุนจะมีผลเมื่อท่านจะก้าวต่อเช่น
มีคนนอกมาลงทุนด้วย
การบีบหรือเปลี่ยน สัดส่วนผู้ถือหุ้น
การกู้เงินจากสถาบันการเงิน
ฯลฯ
.
.
ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องหาจุดที่เจอกันระหว่าง สัดส่วนที่เจ้าของอยากให้เป็น และสัดส่วนที่กฏหมายและสภาพแวดล้อมกิจการ จะไม่เป็นอุปสรรคในอนาคต เพราะ
เมื่อไหร่ก็ตามที่ Holding company เกิดขึ้นมาแล้ว การที่จะเปลี่ยนสัดส่วนทุนอีกรอบนั้น อาจเจอปัญหาเช่น ผู้ถือหุ้นบางรายไม่ยอม อาจมีปัญหาภายหลังได้
.
.
4. การกำหนดราคาโอนระหว่างกันที่ ไม่เหมาะสม
แน่นอนว่าเมื่อมีการจัดตั้ง Holding company ขึ้นมาแล้ว ทำให้บริษัท เริ่มมีรูปแบบของ เครือ หรือเป็น Group companies ขึ้นมา ….. Transfer Pricing หรือ การกำหนดราคาโอนเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ (มาก) โดยเฉพาะตั้งแต่มีกฏหมายใหม่เมื่อปี 2562 ว่ากิจการต้องควรกำหนด ราคาโอนอย่างไร และกระทรวงการคลัง กำหนดให้มีการรายงาน มูลค่าต่างๆระหว่าง บริษัทในเครือให้ภาครัฐทราบด้วย
.
.
ผลคือ ถ้าท่านกำหนดราคาโอนไม่เหมาะสม หรือจัดทำเอกสาร support ไม่ดี สรรพากรมีอำนาจประเมินแน่ๆเลย และถ้าโดนประเมิน ความแย่ของมันคือ สรรพากรไม่ได้มาในปีปัจจุบัน แต่มาในอีกสองสามปีข้างหน้า แล้วประเมินย้อนหลัง …. ค่าปรับคิดตามวัน ซวยไปอีก เพราะฉะนั้นการวางแผนดีตั้งแต่วันแรก เป็นตัวช่วยตรงจุดนี้ได้ครับ
.
.
ที่จริงมีอีกหลายจุดนะ ที่เราสังเกตุได้จากการที่ลูกค้าเข้ามาปรึกษา ยางท่านไม่ได้เหมาะกับ Holding company เลยแต่ก็ดันทุรังไปจัดตั้ง จนฝืนความจริงไม่ไหว ต้องมาให้ทางเราช่วย Liquidate หรือล้มเลิกกันไป หรือบางรายวางแผน ณ วันแรก ไม่ดี ทำให้มีเรื่องราว เกิดขึ้น อันนั้นก็ว่ากันไปตามท้องเรื่อง
.
.
เพราะ Holding company เนี่ยจะว่าไปเป็นการพูดที่ใช้ 3 ภาษา คือ Legal, Tax and Accounting ครับ ดังนั้นถ้าอยากจะทำก็ลองหาข้อมูลเยอะ หาที่ปรึกษา หรือง่ายสุดนะ ถามผู้สอบบัญชีกิจการของท่านว่าขอคำปรึกษาหน่อย แล้วไปคุยกับทนาย ก็จะได้ทางออกที่เหมาะสม เพราะเรื่องพวกนี้ต้อง Case by case จริงๆครับ #อย่าใจร้อนครับ
.
โดย
.