ภาษีหอพัก ภาษีอพาทเมนท์ เสียอย่างไร เท่าไหร่ มาดูกัน – สำนักงานบัญชี ONESIRI
ภาษีหอพัก
โดย
ก่อนอื่น สบายใจได้เพราะปี 2564 ยกคงลดอัตราการเก็บภาษีตัวนี้ 90% !! (อ่านข่าว)
“ผู้ที่มีหอพัก อพาร์ทเม้นท์ ต้องจ่ายภาษีที่ดินเท่าไหร่?”
สำหรับคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับที่พักอาศัยไม่ว่าจะเป็นหอพัก อพาร์ทเม้นท์ จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสียภาษีในอัตราที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการอยู่อาศัย โดยยึดจากมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นหลัก ซึ่งในกรณีอพาร์ทเม้นท์ที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัยแบบให้เช่า จะเสียภาษีในอัตราที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการอยู่อาศัย จะไม่เสียภาษีในอัตราเชิงพาณิชย์ เพราะจุดประสงค์หลักคือการอยู่อาศัยต้องเสียในอัตราเดียวกันกับการอยู่อาศัยปกติ
- ไม่เกิน 50 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.2%
- 50 – 75 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.3%
- 75 – 100 ล้านบาท มีอัตราภาษี 0.5%
- 100 ล้านบาทขึ้นไป มีอัตราภาษี 0.1%
ซึ่งอัตราด้านบน หากแบ่งประเภทอีกจะแบ่งได้ 3 ประเภทคือ :
1 บ้านหลังหลัก (เจ้าของที่ดิน+เจ้าของอาคาร+มีชื่อในทะเบียนบ้าน)
2 บ้านหลังหลัก(ไม่ใช้เจ้าของที่ แต่เป็นเจ้าของอาคาร เช่น เช่าที่มาสร้าง)
3 บ้านหลังอื่น เช่น บ้านหลังที่ 2 ขึ้นไป หรือบ้านที่ไม่มีชื่อเราอยู่ในทะเบียนบ้าน
ดังนั้นสิ่งที่ต้องดูคือ
- หอพักเราเข้า ประเภทใดใน 3 แบบข้างบน
- มาดูอัตราภาษี ตาตารางหมวด บ้านพักอาศัย ด้านล่าง
- ดูรายได้จริง (ที่เจ้าของได้รับจากการปล่อยเช่าจริง ว่าสอดคล้องกับหนังสือประเมินรายได้จากสำนักงานเขต/เทศบาลหรือไม่ ซึ่งจะส่งมาทุกๆปี )
- หากรายได้ที่ เทศบาล หรือสพนังกานเขตประเมินมา มีมูลค่าสูงเกินจริง (เสียภาษีเกินจริง) เราต้องไปยื่นแบบ ภดส.10 ที่เทศบาล เพื่อขอคัดค้านการประเมิน
- เมื่อได้เลขที่พอใจแล้ว ก็จ่ายชำระเลยจ้า
cr.กระทรวงการคลัง
“การคำนวณเบื้องต้นของผู้ที่ต้องเสียภาษีที่ดิน“
สำหรับมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะใช้ราคาประเมินในการคำนวณเพื่อหาตัวเลขที่ถูกต้อง โดยมีสูตรคือ
- มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง – มูลค่ายกเว้น x อัตราภาษี = จำนวนภาษีที่ต้องจ่าย
ขณะเดียวกันราคาของสิ่งปลูกสร้างก็มีสูตรคำนวณเบื้องต้นคือ
- มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง = [ราคาประเมิน (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่ของสิ่งปลูกสร้าง] – ค่าเสื่อมราคา
ทั้งนี้การจะหามูลค่าที่ดินและมูลค่าสิ่งปลูกสร้างสามารถเข้าไปเช็คได้ที่กรมธนารักษ์
“จ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแล้ว ก็ยังต้องจ่ายภาษีเงินได้ด้วย“
การที่เจ้าของมีรายได้จากการให้เช่า จะต้องนำมารวมเปนเงินได้ประเภท 40(5) ด้วย ซึ่งต้องยื่นภาษีทุกๆปีก่อนสิ้นเดือนมีนาคมของปีถัดไป
ซึ่งการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น จะต้องวางแผนนิดนึง เพราะมีหลายรายการที่ทำให้เราเสียภาษีน้อยลงได้
หากหอพักใด ปล่อยเช่าโดยมีการเก็บ ค่าส่วนกลาง หรือ ค่าบริการน้ำ/ไฟ ถ้าทำในรูปแบบบุคลธรรมดา รายได้นี้จะเป็นประเภท 40(8) ด้วยนะ ซึ่งถ้าวางแผนไม่ดี 40(8) จะต้องไปจดภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย(VAT) หากมียอดเกิน 1.8ล้านต่อปี ควรวางแผนประเภทรายได้ดีๆ
หรือท่านใดที่จดทะเบียน นิติบุคคล (บริษัท หรือ ห้างฯ) ก็ต้องคำนวณให้ดี วางแผนภาษีแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้เสียภาษีอย่างสมเหตุสมผล
**หากท่านใดหาที่ปรึกษา วางแผนภาษี ดูแลบัญชีติดต่อเราได้เลย โทร o98-2811599 ห
รือ Line @onesiriacct ให้คำปรึกษาโดยผู้สอบบัญชี**
“เอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมในการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง“
- สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาโฉนดที่ดินของสิ่งปลูกสร้าง
- สำเนาสัญญาซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือสำเนาสัญญาการเช่า
- เอกสารจดทะเบียนส่วนอื่น ๆ เช่น ใบประกอบกิจการ, ทะเบียนพาณิชย์ ฯลฯ
- ใบเสร็จรับชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินปีล่าสุด (ถ้ามี)
“เสียภาษีที่ดินจ่ายที่ไหน มีวิธีจ่ายอย่างไรบ้าง?“
สามารถเสียภาษีที่ดินได้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ของตนเอง เช่น
- กรุงเทพฯ เสียที่สำนักงานเขตซึ่งที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่นั้น
- เขตองค์การบริหารส่วนตำบล เสียที่ อบต.
- เขตเทศบาล เสียที่สำนักงานเทศบาล
- เมืองพัทยา เสียที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
วิธีจ่ายสามารถเลือกได้หลายรูปแบบทั้งการจ่ายเงินสด ตั๋วแลกเงินธนาคาร เช็คธนาคารรับรองสั่งจ่ายหน่วยงาน เป็นต้น และต้องเสียภาษีภายในเดือนสิงหาคม 2563 ส่วนผู้เสียภาษีที่ไม่ได้ชำระภายในเดือนสิงหาคม 2563 นี้ จะต้องเสียเพิ่มอีกร้อยละ 1 ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ ทั้งนี้สามารถติดต่อชำระภาษีค้างพร้อมทั้งเบี้ยปรับภายในเดือนกันยายน 2563 นี้
ข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, ราชกิจจานุเบกษา, กรมธนารักษ์
โดย