เงินปันผล และ โบนัส แบบไหนดีกว่า ต่างกันยังไงนะ
เจ้าของกิจการเอาเงินออกอย่างไร โบนัส เงินปันผล อะไรดีกว่ากัน
โดย ณัฐวัฒน์ โลหะพิทักษ์ (CPA, TA, Dip-TFR)
หากเจ้าของกิจการนำเงินมามาในรูปแบบโบนัส โบนัสที่จ่ายสามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้ แต่กระนั้นก็ต้องนำไปบวกเป็นรายได้ของบุคคลธรรมดาด้วย
แต่หากเจ้าของกิจการนำออกมาในรูปแบบเงินปันผล ซึ่งเงินปันผลไม่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในกิจการได้ เจ้าของกิจการอาจไม่ต้องนำเงินปันผลนั้นมารวมเป็นรายได้ เพราะเมื่อกิจการจ่ายปันผล กิจการจะหัก 10% นำส่งสรรพากร ซึ่งผู้ได้รับเงินปันผลเลือกได้ว่าจะนำปันผลนั้น มารวมคำนวณเป็นรายได้เราอีกหรือไม่ หรือจะยอมโดนหัก 10% แล้วจบ …… คนไหนที่มีฐานภาษี ต่ำกว่า 10% ก็ควรนำมารวม เพื่อขอคืนภาษีหรือเป็นเครดิตร แต่ถ้าท่านใดฐานภาษีเกิน 10% ก็ไม่ควรนำมารวมครับ
ที่จริงมีอีกหลายทริคเกี่ยวกับ เงินปันผล และ โบนัส เทคนิคที่สามารถจัดการได้ ต้องลองหาอ่านหรือหาที่ปรึกษา จะได้ลดความเสี่ยงแต่เนิ่นๆครับ
โบนัส |
เงินปันผล |
|
อัตราภาษี |
5-35 % |
10% |
สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ |
ได้ |
ไม่ได้ |
Final Tax |
ไม่ได้ |
ได้ |
ยกตัวอย่าง สมมุติว่าเจ้าของกิจการมีโบนัสหรือเงินปันผลอย่างละ 2 ล้านบาท
หากได้เป็นโบนัส
จะต้องนำไปคิดเป็นรายได้ของบุคคลธรรมดาและเสียภาษีตามขั้นบันใด
บุคลลธรรมดารายได้ |
2,000,000.00 บาท |
|
หักค่าใช้จ่ายส่วนตัว ( 50% แต่ไม่เกิน 1แสนบาท ) |
100,000.00 บาท |
|
ลดหย่อน ผู้มีเงินได้*ถ้ามี ประกันชีวิต/ ลงทุนกองทุน หรือต่างๆก็จะลดได้มากขึ้นนะครับ |
60,000.00 บาท |
|
รายได้ที่ต้องนำไปคิดภาษี |
1,840,000.00 บาท |
|
คิดภาษีแบบขั้นบันได |
มูลค่าภาษี |
คงเหลือ |
เงินได้ที่ต้องนำมาคิดภาษี |
1,840,000.00 บาท |
|
150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้นภาษี |
– |
1,690,000.00 บาท |
150,001.00 – 300,000.00 อัตราภาษี 5% |
7,500.00 บาท |
1,540,000.00 บาท |
300,001.00 – 500,000.00 อัตราภาษี 10% |
20,000.00 บาท |
1,340,000.00 บาท |
500,001.00 – 750,000.00 อัตราภาษี 15% |
37,500.00 บาท |
1,090,000.00 บาท |
750,001.00 – 1,000,000.00 อัตราภาษี 20% |
62,500.00 บาท |
840,000.00 บาท |
1,000,001.00 – 2,000,000.00 อัตราภาษี 25% |
210,000.00 บาท |
– |
รวมมูลค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องเสียทั้งสิ้น |
337,500.00 |
ซึ่งการที่นำเงินออกมาในรูปแบบโบนัสนั้นยังสามารถทำให้เป็นค่าใช้จ่ายของกิจการเพิ่มขึ้นอีกด้วยหาก กิจการที่นำเงินออกมาไม่ใช่ SME ก็จะสามารถประหยัดภาษีนิติบุคคลได้อีก 400,000.00 (2,000,000.00 * 20 %) บาท แต่ถ้าบริษัทขาดทุนหรือกำไรน้อยกว่าเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี (SME) ก็ไม่ต้องพิจารณาตรงนี้ครับ
แต่หากเจ้าของกิจการนำเงินออกมาในรูปแบบเงินปันผล จำนวน 2,000,000.00 บาทเท่ากันนั้น
เจ้าของกิจการจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ซึ่งก็คือ
2,000,000.00 * 10% = 200,000.00 บาท ซึ่งเป็น Final Tax แล้ว
จากโจทย์ตัวอย่างจะเห็นได้ว่าหากนำเงินออกมาในรูปแบบโบนัสจะทำให้เราเสียภาษีมากกว่าก็จริงแต่ยังสามารถลดภาษีในส่วนของนิติบุคคลได้มากกว่าการนำเงินออกมาในรูปแบบเงินปันผล
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าของกิจการจะนำเงินออกมาในรูปแบบไหนก็ต้องมีการวางแผนภาษีล่วงหน้าในส่วนที่ได้รับส่วนตัวของเจ้าของกิจการด้วยเนื่องจากเจ้าของกิจการอาจมีค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ก็อาจจะทำให้การคิดภาษีบุคคลธรรมดาที่จะต้องเสียมีมูลค่าที่ลดลงด้วย ทางที่ดีควรหาที่ปรึกษาเพื่อช่วยคำนวณและหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับกิจการและเจ้าของกิจการ
Cr. RD